น้ำมันเครื่องมีความสำคัญมากกับเครื่องยนต์ ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันการเสียดสีและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังมีผลถึงสมรรถนะทั้งอัตราเร่ง ตลอดจนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วยครับ
บนฉลากของขวดน้ำมันเครื่อง จะมีตัวเลขแสดงค่าความหนืดระบุไว้ โดยตัวเลขนี้คือค่ามาตรฐานน้ำมันเครื่องของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ หรือ Society of Automotive Engineers (SAE) ที่แสดงถึงค่าความหนืดหรือความข้นใสของน้ำมันเครื่อง โดยกำหนดเป็นชุดตัวเลขระบุรายละเอียดที่อุณหภูมิสูงและต่ำ เช่น 5W-30, 10W-40, 15W-40 เป็นต้น
โดยตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า W ซึ่งย่อมาจากคำว่า “Winter” เป็นค่าความหนืดในกรณีที่เครื่องยนต์เย็น ส่วนตัวเลขข้างหลัง W เป็นค่าความหนืดในขณะที่เครื่องยนต์มีการทำงานซึ่งมีอุณหภูมิสูง สำหรับระดับค่าของความหนืดนั้น หากตัวเลขหน้า W มีค่าน้อย ความหนืดของน้ำมันจะต่ำกว่าตัวเลขมาก (0W, 5W, 10W, 15W, 20W, 25W) และถ้าตัวเลขหลัง W มีค่ามาก ความหนืดก็จะยิ่งสูง (20, 30, 40, 50, 60)
ค่าความหนืดนั้นส่งผลต่อเครื่องยนต์โดยตรง ลองนึกภาพเมื่อเวลาเราสตาร์ทรถขณะที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ หากเราเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่หนืดเกินไป น้ำมันเครื่องก็จะไหลเวียนเข้าไปหล่อลื่นในระบบไม่เต็มประสิทธิภาพ ในทางกลับกันหากเราเลือกค่าความหนืดที่เหลวเกินไป ในช่วงที่เครื่องยนต์ร้อนจัดน้ำมันเครื่องก็จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียดสีของเครื่องยนต์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลไปถึงการสึกหรอของเครื่องยนต์ อัตราเร่ง และการประหยัดเชื้อเพลิงอีกด้วย ดังนั้นการเลือกค่าความหนืดน้ำมันเครื่องต้องสอดคล้องกับอุณหภูมิแวดล้อม และลักษณะการใช้งานรถของเราด้วยนะคะ โดยสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากคู่มือประจำรถยนต์ครับ
ขอบคุณบทความดีๆ eTOYOTA หากสนใจอยากออกรถยนต์โตโยต้าหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อมาได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โทร.(043) 333-444 สำหรับติดต่อช่องทางออนไลน์ทักมาที่เพจ Facebook Toyotakaennakorn หรือ Add LINE @TOYOTAKAENNAKORN ศูนย์บริการโตโยต้าแก่นนครเรามีเช็กฟรี 24 รายการ บริการซ่อมเครื่องรถยนต์โตโยต้า บริการงานศูนย์ซ่อมตัวถังและสี และอื่นๆอีกมากมาย สนใจสามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่ โตโยต้าแก่นนคร ทุกสาขา